ชนิด Bulk Blending Fertilizer(ปุ๋ยผสม)

(+1MgO+2S+0.1B)

พืชที่แนะนำให้ใช้ ไม้ผล พืชผัก และยางเปิดกรีด

  • ไม้ผล เช่น เงาะ ส้ม ทุเรียน ลำไย มังคุด น้อยหน่า ขนุน องุ่น พุทรา มะพร้าว และไม้ผลอื่น ๆ ใช้เมื่อต้นโตพอสมควร (ระยะ 1-3 ปี) โดยเร่งการเจริญเติบโตก่อนให้ผล ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 0.5-1.5 กก./ต้น/ปี ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดของต้นไม้นั้นโดยแบ่งใส่ 4 ครั้ง ทุก ๆ 3 เดือน ต้นที่ให้ผลแล้ว ใช้บำรุงต้นหลังจากเก็บผลและตัดแต่งกิ่งแล้ว ในอัตรา 1.5-2 กก./ต้น ขึ้นอยู่กับอายุของพืชและขนาดของต้น โดยใส่ปุ๋ยรอบ ๆต้นตามแนวรัศมีพุ่มใบ อย่าให้กระเทือนรากแล้วพรวนดินกลบปุ๋ยตามด้วยการให้น้ำ
  • พืชผัก ระยะที่ 1 อายุ 7-10 วัน ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-40 กก./ไร่ระยะที่ 2 หลังใช้ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 20-30 วัน ในอัตรา 20-40 กก./ไร่
  • ยางพาราเปิดกรีด การใส่ปุ๋ยเคมีบำรุงต้นยางมีหลายวิธี เช่น วิธีหว่านปุ๋ยกระจายเป็นแถบห่างจากโคนต้นประมาณ 1-2 เมตร แล้วคราดกลบ วิธีหว่านลงไปรอบ ๆ บริเวณโคนต้น วิธีหว่านแล้วคราดกลบ วิธีเจาะเป็นหลุมใส่ปุ๋ยเคมีแล้วกลบ และวิธีเจาะเป็นร่อง โดยแบ่งใส่เป็น 2 ครั้ง ๆ ละ 350-400 กรัม/ต้น/ 6 เดือน ครั้งแรกใส่ในระยะต้นยางพาราเริ่มผลิใบอ่อน ใส่ปุ๋ยครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกแล้ว 6 เดือน

ธาตุอาหารรอง / ธาตุอาหารเสริม

  • เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ (สีเขียว) ในพืช
  • ช่วยสร้างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และน้ำตาลในพืช
  • ส่งเสริมการนำธาตุฟอสฟอรัสไปสู่ลำต้น
  • ทำให้สภาพกรดด่างในเซลล์เหมาะสม

  • สร้างกรดอะมิโน โปรตีน และวิตามินบีในพืช
  • ช่วยสร้างสี กลิ่น และน้ำมันในพืช
  • ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์

  • ส่งเสริมการออกดอกในพืช
  • ช่วยในการผสมเกสรและการติดผล
  • ช่วยให้พืชใช้ประโยชน์จากไนโตรเจนและแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยในการเคลื่อนย้ายฮอร์โมนในพืช